ตอนที่เขียน blog อันนี้รถกำลังติดอยู่บนถนนวิภาเลยครับ แต่เนื่องจากเป็นคนชอบใช้เวลาบนรถให้เกิดประโยชน์ เลยต้องเขียน blog ด้วย (ปกติจะฟังข่าวหรือไม่ก็ดูคลิปรายการธุรกิจ แต่เดือนนี้ใช้ 3g หมดโควต้าละ net เลยช้า ดูไม่สนุก)
กลับมาที่เรื่องธุรกิจกันต่อ พอดีตะกี้พึ่งคุยกับเพื่อนสายธุรกิจซึ่งมีอุดมการณร่วมกันคืออยากจะสนับสนุนให้คนทั่วไปสามารถประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ประกอบการณ์ได้มากขึ้น โดยเราจะมี super workshop เพื่อสอน concept การ validate idea ธุรกิจอยู่ ใครสนใจกด like page http://www.facebook.com/startupcto เพื่อติดตามข่าวสารของโครงการนี้ได้นะครับ รับรองจ๊าบใจแน่นอน
กลับมาเรื่องที่คุยกับเพื่อนคนนี้ก่อน พอดีเราก็คุยไปคุยมาเห็นตรงกันว่าผู้ประกอบการที่เราเจอปัจจุบันไม่พ่อรวย ก็แม่รวย ซะเป็นส่วนใหญ่ เป็นส่วนน้อยที่จะเจอคนที่ไม่มีตังแล้วจะประกอบธุรกิจ (แต่อันนี้ผมพึ่งรู้จักน้องคนนึงที่ทำธุรกิจตั้งแต่ม.2 แล้วก็ฝ่าฝันความลำบากมาจนตอนนี้เค้าอยู่ปี 2 แล้วรับงานจากบริษัทใหญ่ๆเป็นว่าเล่นเลยครับ เดี๋ยววันหลังเอามาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังครับ) ทีนี้ผมเลยมาวิเคราะห์ได้ว่าจริงๆ Programmer เราเป็นสายที่มีความได้เปรียบหลายๆอย่างนะครับในการทำธุรกิจ เลยอยากหนับหนุนกันหน่อย โดยผมแยกเป็นหัวข้อๆ ดังนี้
ด้านการหาทุนเริ่มต้น
สายอาชีพอื่น บางทีถ้าอยากทำอะไรบางอย่าง แน่นอนต้องใช้เงินทุน เช่นขายเครื่องสำอางค์ ขายเสื้อผ้า นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ล้วนใช้เงินทุนขั้นต่ำไม่มากก็น้อยทั้งสิ้น แต่ Programmer อย่างเราไม่ต้องทำอะไรครับ แค่รับงาน freelance มานั่งทำที่บ้านวันละ 3-4 ชม. ก็ได้เงินโดยไม่ต้องลงทุนเงินละ (แต่ต้องลงทุนเวลานะครับ จะทำไรก็ต้องแลกมาด้วยความลำบากบ้างเนอะ)
ซึ่งปัจจุบันมีเว็บต่างๆ มากมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่เป็นสื่อกลางวนการว่าจ้างงาน freelance ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Promandate (http://www.promandate.com) ซึ่งพึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากงาน Start it up นั่นเอง
ดังนั้นเมื่อทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว เหลือแค่เรื่องเดียวคือ รับงานและทำให้ "คุณภาพดี" และ "ไม่ทิ้งงาน" พร้อมทั้งมีความ "เห็นอกเห็นใจลูกค้า" โดยอันนี้ผมมี case study จากบริษัทผมเอง ผมทำ Software House มา 4ปี ถ้ารวมเวลาที่ต้องไปขายงานน่าจะราวๆ 10 วัน ที่เหลือลูกค้ามาเองหมดเลยครับ (เดี๋ยวจะแชร์ประสบการให้ฟังเต็มๆใน Course Startup CTO นะครับ รีบลงทะเบียน เหลือ 5 ที่เท่านั้นครับ) ดังนั้นถ้ามีคนอ่านบทความนี้แล้วเปลี่ยนมาไม่ทิ้งงาน เอาใจเขาใส่ใจเรา ทำคุณภาพดีดี ผมก็ success ละครับ
ด้านการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
สายงาน Programmer เป็นสายอาชีพที่ต้องมีการคิด วิเคราะห์ (เช่นการออกแบบ class ,การออกแบบระบบ flow การทำงาน, การออกแบบ database ให้เหมาะสมและรวดเร็ว, การเลือกใช้ technology ที่ถูกต้อง blablabla) หรือการ แก้ปัญหา (debug เพื่อหา bug ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ ทุกวันๆ) ดังนั้น เวลาทำอะไรเราจะทำเป็นระบบ มีการคิดวิเคราะห์เป็นอย่างดี ทำให้ได้เปรียบกว่าในอีกหลายๆ สายงานครับ
ด้านการ research
บ่อยครั้งที่เราต้อง research technology web ใหม่ๆ research พี่กู(google) หรือไม่ก็ Stack Overflow เป็นประจำ ทำให้ Skill ด้านนี้เราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับการที่ทำธุรกิจที่ต้องทำ research ทั้งคู่แข่ง, กลุ่มเป้าหมาย, ecosystem ต่างๆ
การไม่ค่อยสื่อสารกับคนอื่น!!
อันนี้จุดด้อยนะครับ ใครใรข้อนี้ปรับด้วย เริ่มจากใช้การสื่อสารที่ดีขึ้น(เขียน email ให้รู้เรื่องมากขึ้น, กำหนดสิ่งที่ต้องการให้ผู้รับฟังเข้าใจ แล้วค่อยสื้อสารจุดนั้นๆ ออกมา) การเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม(ผมมักเจอผู้ที่ประสบความสำเร็จ เมื่อมีอะไรเค้าเลือกที่จะโทรหาเลยครับ อย่าใช้ line หรือ facebook messenger กับเรื่องเร่งด่วนนะครับ
สุดท้ายนี้ ใครชอบบทความฝากกด like fb เป็นกำลังใจหน่อยครับ http://www.facebook.com/startupcto
ติดตาม Blog ผมด้วย http://www.startupcto.net
Leave a comment!
You must be logged in to post a comment.