Soft Skill เป็นศัพท์ที่นิยมใช้ในงานฝ่ายบุคคล ซึ่งเชื่อว่านักพัฒนาซอฟท์แวร์หลายท่านอาจจะยังไม่เข้าใจเมื่อไปฟังในงานต่างๆหรือได้ยินใครพูดถึง ว่ามันหมายถึงอะไร
Soft Skill ก็คือ ความรู้และทักษะความชำนาญที่ไม่เกี่ยวโดยตรงกับสายงาน แต่เป็นตัวช่วยหนุนให้การทำงานดีขึ้น ดีมากขึ้น จนถึงยอดเยี่ยม
หากหน้าที่หลักของนักพัฒนาซอฟท์แวร์ คือ พัฒนาซอฟท์แวร์ให้ได้ตามความต้องการของผู้ใช้งานแล้วละก็ แค่ทักษะความรู้ในการเขียนโปรแกรมหรือออกแบบฐานข้อมูลเพียงอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จ ทักษะด้านใดบ้างที่จะช่วยให้นักพัฒนาซอฟท์แวร์สามารถพัฒนาซอฟท์แวร์ให้ประสบความสำเร็จ ถ้าพูดสั้นๆหรือคำแนะนำจากฝ่ายบุคคลก็มักจะบอกกันว่า เราต้องเก่งงานและเก่งคน
สมรรถนะด้านเก่งงาน (Work Related Competency)
สมรรถนะด้านเก่งคน (People Management Competency)
ด้านบริหารตนเอง-บริหารเวลา จัดการตนเอง จูงใจตนเอง ความมั่นใจในตนเอง เชาวน์อารมณ์
ด้านทำงานร่วมกับคนอื่น-การจูงใจ การบริหารทีมงาน การสื่อสาร การนำเสนอ การจัดการข้อโต้แย้ง การบริหารคนดื้อ การจัดการการเปลี่ยนแปลง เป็นต้น
การบริหารตนเอง
ปกติแล้วชาวไอทีจะเป็นจ้าวแห่งการบริหารและขยันคิด Process และ วิธีการแก้ปัญหาต่างๆออกมามายหลายตลบจนให้เรียนรู้ไม่หวาดไม่ไหว ใครตามไม่ทันก็เหมือนกับวัยรุ่นตกยุคไม่ทันแฟชั่น แต่ทำไมงานสายโปรแกรมเมอร์มักจะถูกต่อว่าจากลูกค้าหรือคนสายอาชีพอื่นว่าไม่ตรงเวลา ติสต์ อารมณ์ศิลปินสูง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนในสายอาชีพนี้เป็นอย่างนั้น เพราะผมรู้จักโปรแกรมเมอร์ชาวต่างประเทศหลายคนเขาก็มีสมาธิและตรงเวลามาก ไม่ได้ทำงานหามรุ่งหามค่ำ จริงๆแล้วหรือเป็นเพราะว่าโปรแกรมเมอร์เหล่านั้นไม่รู้หลักในการบริหารตนเอง
การบริหารเวลา
เราชาวไอทีก็มีโปรแกรมที่บริหารมากมาย อย่างเช่น Microsoft Project , Todo List , Trello ถ้าจะให้ลิสต์ออกมาคงไม่ต่ำกว่า 50 ตัว ข้ออ้างในการบริหารเวลาไม่ดีที่มักจะได้ยินบ่อยๆคือ รถติด บ้านไกล ถ้านักบริหารได้ยินคำเหล่านี้เขาไม่สนใจปัญหาเหล่านั้นและไม่ได้อยากได้ยินมันบ่อยๆหรอก เพราะนั่นหมายถึงคุณไม่มีความสามารถในการบริหารแม้กระทั่งตัวคุณเองถ้าไม่ได้เกิดเพราะเหตุสุดวิสัยจริงๆ ถ้าคุณมาทำงานสายทุกวันแล้วบอกว่าบ้านไกล รถติด คุณต้องเดินทางโดยรถเมล์ คุณก็ต้องประเมินเวลารถเมล์เที่ยวแรกได้ว่าออกกี่โมง ใช้ระยะเวลาเท่าไรถึงออฟฟิศ ถ้าครั้งแรกสาย คุณก็ต้องปรับปรุงประเมินเวลาใหม่สิ ถ้ายังสายตลอดแสดงว่าคุณไม่ได้มีการพัฒนาอะไรขึ้นเลย แล้วใครจะกล้าเชื่อมั่นกับเวลาที่คุณสัญญากับงานต่างๆของคุณ มันก็แสดงว่าคุณไม่ให้ความสำคัญ สำหรับชาวต่างประเทศเรื่องการรักษาเวลาเป็นเรื่องใหญ่มาก ทุกคนมีเวลา 24 ชม.เท่ากัน การที่คุณไม่รักษาเวลาคนอื่นนั่นหมายความว่าคุณไม่ให้ความสำคัญเขา เป็นการดูถูกความสำคัญเวลาของคนอื่น ทำให้เวลาของเขาเสียไปโดยปล่าวประโยชน์ ฉะนั้นไม่ว่าอาชีพไหนๆการบริหารเวลาเป็นการฝึกพัฒนาตนเองที่สำคัญมาก ใครสนใจเรื่องการบริหารเวลาในการทำงานลองศึกษาเรื่อง GTD (Get things done) http://gettingthingsdone.